เยส ป 4
ซึ่งเป็นคณะกรรมการหนึ่งของธนาคารแห่งประเทศไทย จะใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือหลักอย่างหนึ่งในการปรับสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีกลไกสรุปได้ดังนี้ 1. การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เมื่อเศรษฐกิจดูจะคึกคักเกินไป เติบโตร้อนแรง เงินเฟ้อเริ่มพุ่งสูงจากการที่ข้าวของแพง กนง. ก็จะ " ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย " เพื่อส่งสัญญาณให้ธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 ขาดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้นจะจูงใจให้คนที่ชอบความเสี่ยงต่ำลดการใช้จ่ายและการลงทุนด้านอื่นๆ เพื่อนำเงินมาฝากมากขึ้น ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่แพงขึ้นก็จะโน้มน้าวให้คนทั่วไปและภาคเอกชนอยากกู้ยืมน้อยลง รวมถึงจะทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ทั้งรัฐและเอกชน มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย จนเป็นการจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติขนเงินมาลงทุนในหลักทรัพย์ไทยมากขึ้น จนค่าเงินบาทแข็งขึ้น และส่งผลให้การส่งออกชะลอตัวลง 2. การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เมื่อเศรษฐกิจชักจะเหงาหงอย เติบโตต่ำ โดยหลักก็จะดูจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ที่ชะลอตัว ยอดการส่งออกสุทธิที่ลดลง และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำลง กนง. ก็จะ " ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย " เพื่อส่งสัญญาณให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยทั้ง 2 ขาเช่นกันเพื่อให้คนอยากฝากธนาคารน้อยลง แล้วนำเงินไปใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น โดยหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากเงินในธนาคาร รวมถึงทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ทั้งระบบมีแนวโน้มลดลง จนมีส่วนช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อน จนช่วยกระตุ้นรายรับของภาคส่งออกได้ ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน ในการประชุม กนง.
1428% เพื่อที่จะได้คูณกับราคาในตอนนั้นแล้วออกมาได้อัตราที่เราตกลงกันตั้งแต่แรกที่ 50 บาท (700×7. 1428% = 49. 9996%) ตัวอย่างที่ 2: ตราสารหนี้ถูกขายตอนราคาขึ้น อันนี้ก็จะกลับกันจากตัวอย่างข้างต้นครับ สมมติว่าราคาตราสารหนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 1, 300 บาท ผลตอบแทนของตราสารหนี้ก็ควรที่จะปรับตัวขึ้นมาเป็น 3. 8462% เพื่อที่จะได้จ่ายหนี้ในอัตราที่ตกลงกันไว้แต่แรกที่ 50 บาท (1, 300×3. 8462% = 50. 0006 บาท) และทั้งหมดนี้ก็เป็นที่มาของการที่ผู้คนในหมู่นักลงทุนชอบพูดกันว่า Yield ดีดแล้วตราสารหนี้ถูกเทขาย หรือ จะเป็นประโยคที่ฮอตฮิตในช่วงนี้อย่างการที่ Fed กดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำ จนทำให้พันธบัตรรัฐบาลราคาไม่ผันผวนเหมือนเช่นช่วงวิกฤติ COVID-19 เมื่อเข้าใจดังนี้แล้วในส่วนต่อไปผมก็ขอยกตัวอย่างเป็น Case Study ให้เห็นภาพ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ใกล้ตัวทุกคนมากที่สุด ซึ่งก็คือช่วงวิกฤติ COVID-19 นั่นเองครับ เพราะอะไรตราสารหนี้ถึงปรับตัวลงในช่วงวิกฤติ COVID-19?
วันที่ 07 ก. พ. 2562 เวลา 11:40 น. เรื่อง บีเซลบับ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์ ออกมาแล้ว... สลิปเงินเดือน หรือใบแจ้งยอดรายรับสำหรับพนักงานอัตราเงินเดือน เห็นเพื่อนๆ ในออฟฟิศที่เลือกลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบกองทุนตราสารหนี้ไว้ มีเฮกันยกใหญ่ ก็เพราะผลตอบแทนการลงทุนจากปีที่แล้วได้น้ำได้เนื้อ และมีกำไรอยู่กองเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในกองทุนตราสารประเภทอื่น ชอบลงทุนแบบเสี่ยงน้อยใช่ไหม? ชอบการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนแน่ๆ ใช่ไหม? มาทางนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อย ในขณะเดียวกันก็อยากได้ผลตอบแทนแบบแน่นอน สม่ำเสมอ การลงทุนใน "ตราสารหนี้" คือ ทางเลือกที่ "ใช่" สำหรับคุณ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่ตลาดหุ้นตลาดการเงินผันผวน ตราสารหนี้ คือ ตราสารทางการเงินที่ผู้ถือ (ผู้ลงทุน) มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยเจ้าหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และได้รับเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนดอายุ ตราสารหนี้ที่พบเห็นทั่วไป เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน ทำไมถึงควรลงทุนในตราสารหนี้ 1. ก็ถ้าตอบตัวเองว่าเป็นนักลงทุนที่ลงทุนสั้นก็ได้ ยาวก็ดี เพราะตราสารหนี้มีอายุตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 20 ปี มีระดับความเสี่ยงหลากหลาย ซึ่งผู้ลงทุนเลือกได้ตามต้องการ 2.
20 ลบ. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 3 เดือน 0. 47% 0. 00% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี 0. 51% 0. 00% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี 1. 42% -0. 03% >> มูลค่าการซื้อขายแบบ Outright (แยกตามประเภทตราสาร) << ประเภทตราสาร ล้านบาท Change ตั๋วเงินคลัง 9, 791. 14 +143% พันธบัตรรัฐบาล 13, 103. 49 -39% ตั๋วสัญญาใช้เงินรัฐบาล 0. 00 n/a พันธบัตร ธปท. 12, 341. 12 -67% พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 3. 01 n/a หุ้นกู้เอกชน 921. 26 -63% พันธบัตรต่างประเทศ 0. 00 n/a หมายเหตุ: n/a คือ หาค่าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีมูลค่าการซื้อขายในวันก่อนหน้า --อินโฟเควสท์ โดย ชุลีพร บุญยืน โทร. 02-2535000 ต่อ 375 อีเมล์:
พ. บง. รับรอง รับอาวัลหรือสลักหลังและหุ้นกู้ระยะสั้นและ ระยะยาวตามกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการ ก. ล. ต.
ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในตลาด ตราสารหนี้ที่ออกใหม่มีอายุตราสารเท่ากัน และความเสี่ยงเท่ากัน ก็ต้องได้ผลตอบแทนสูงขึ้น สมมติ เพิ่มเป็น 5% ก็เท่ากับว่า ตราสารเดิม ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าที่ตลาดให้อยู่ 1. 00% ถ้าเป็นอย่างนี้ หากจะขายให้คนอื่น ใครจะซื้อ ในเมื่อของใหม่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เว้นแต่จะต้องเพิ่มแรงจูงใจ ด้วยการลดราคาตราสารลง จึงทำให้มูลค่าตราสารที่กองทุนรวมถืออยู่ลดลง และในทางกลับกัน ถ้าวันนี้ กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ตราสารหนี้ที่ออกใหม่มีอายุตราสารเท่ากัน และความเสี่ยงเท่ากัน ก็ต้องได้ผลตอบแทนลดลง สมมติ ลดลงเป็น 3% ก็เท่ากับว่า ตราสารเดิม ให้ผลตอบแทนมากกว่าที่ตลาดให้อยู่ 1.
ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นขาลงและอยู่ในระดับต่ำ กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวกว่า ก็จะได้ผลตอบแทนจากราคาตราสารที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยหน้าตั๋ว ( Coupon Rate) ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า ( เพราะลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวกว่า) อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือนโยบายการเงินที่มีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง. )
8% และ 3. 9% โดยปรับลดลงจากผลกระทบของโควิดที่ยืดเยื้อและรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ ตลอดจนการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบมาก และแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับลดลงมากในปีหน้าจากนโยบายการเปิดประเทศที่ล่าช้า ในส่วนของมาตรการทางการคลังนั้น รัฐบาลได้ออก พ. ร. ก. ฉุกเฉิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก 5 แสนล้านบาท ใช้สำหรับเยียวยาโควิดระลอกสาม โดยได้มีการเบิกใช้ไปแล้วบางส่วน แต่ดูเหมือนเม็ดเงินที่นำมาใช้นั้นอาจไม่สามารถชดเชยกับการบริโภคภาคเอกชนที่ลดลง ทำให้สำนักวิจัยหลายแห่งต่างก็ปรับลดประมาณการ GDP ของไทยในปีนี้ลงเรื่อยๆ โดยล่าสุดผู้ว่า ธปท.
ตราสารหนี้ คืออะไร มีอะไรบ้าง อ่านง่ายเก็ทไว ภายใน 5 นาที่ จะได้ผลตอบแทนจากกองทุนตราสารหนี้ เป็นอย่างไร กองทุนรวมตราสารหนี้มักมีความเสี่ยงปานกลางค่อนไปทางต่ำ มีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 1-2 ปีขึ้นไป เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการหาที่พักเงินแต่ยังได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการนำเงินฝากไว้เฉยๆ โดยผลตอบแทนจากกองทุนตราสารหนี้ แบ่งออกเป็นผลตอบแทนจากตราสารหนี้ที่อยู่ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ ดอกเบี้ยรับตามที่กำหนดไว้ (Coupon) กำไร (ขาดทุน) จากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain) นำแนะ 10 อันดับ กองทุนตราสารหนี้ ตัวไหนดี?